สงครามการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้เล่นสำคัญ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นจากการตัดสินใจขึ้น ภาษี สินค้านำเข้าอย่างต่อเนื่อง มาตรการเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ไปจนถึงเสถียรภาพทางการเงิน

การดำเนินนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยการใช้มาตรการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน ได้หวนกลับมาสร้างความกังวลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง
การตัดสินใจเดินหน้าขึ้นภาษีอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศคู่กรณีเท่านั้น แต่ยังสั่นคลอนห่วงโซ่อุปทานโลก กระแสการค้า และบรรยากาศการลงทุนโดยรวม วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและกำลังเกิดขึ้นจากการดำเนินนโยบายภาษีดังกล่าวต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง
ประวัติโดยสังเขป


โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) ที่เมืองนิวยอร์กซิตี รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวอเมริกัน
ทรัมป์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ เขาสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวและขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเองจนมีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีทรัพย์สินหลากหลายประเภท เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม คาสิโน และสนามกอล์ฟ
การเข้าสู่การเมือง
ในปี 2015 ทรัมป์ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในนามพรรคริพับลิกัน วาระแรกทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2017 ถึงวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2021
ในช่วงดำรงตำแหน่ง เขาดำเนินนโยบายที่สำคัญหลายอย่าง เช่น การปรับลด ภาษี การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา การดำเนินนโยบาย America First ในด้านการค้าและการต่างประเทศ
หลังจากการเลือกตั้งปี 2020 ทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี พ.ศ. 2020 แต่แพ้ให้กับโจ ไบเดน แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีบทบาทสำคัญในพรรคริพับลิกันและในเวทีการเมืองอเมริกา ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง และเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปี 2025 นับว่าเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา
ภาษีนำเข้าคืออะไร?

ภาษีนำเข้า (Import Duty) คือ เงินที่รัฐบาลของประเทศหนึ่งเรียกเก็บจากผู้นำเข้า เมื่อมีการนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศนั้น หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น ค่าธรรมเนียมหรืออากรที่ต้องชำระให้แก่รัฐบาลสำหรับการนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อใช้ บริโภค หรือจำหน่ายภายในประเทศ
วัตถุประสงค์หลักของการมีภาษีนำเข้า
- ปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ลดความได้เปรียบในการแข่งขันกับสินค้าที่ผลิตในประเทศ
- เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ จำกัดปริมาณการนำเข้าสินค้าบางชนิด และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หรือ เป็นเครื่องมือในการปรับสมดุลการค้า
ดังนั้น ภาษีนำเข้า จึงเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลในการบริหารจัดการการค้าระหว่างประเทศ และมีผลกระทบต่อราคาสินค้า การแข่งขันในตลาด และรายได้ของรัฐ
ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น

การขึ้นภาษี Reciprocal Tariffs หรือภาษีตอบโต้
สหรัฐฯ ได้ดำเนินมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราที่สูงถึง 104% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน 2568 มาตรการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของสหรัฐฯ ที่จะตอบโต้ทางการค้าต่อจีน โดยอาจมองว่าจีนมีการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือต้องการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ
การขึ้นภาษีพัสดุ/ไปรษณีย์จากจีน
นอกเหนือจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าโดยทั่วไปแล้ว สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเตรียมที่จะขึ้นภาษีพัสดุหรือไปรษณีย์ที่มีต้นทางจากจีนอีกด้วย โดยมีอัตราสูงถึง 90% มาตรการนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เจาะจงไปที่การค้าปลีกออนไลน์ข้ามพรมแดน
คำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร (Executive Order)
การขึ้นภาษีพัสดุเป็นผลมาจากคำสั่งพิเศษที่ลงนามโดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและอำนาจของฝ่ายบริหารในการดำเนินนโยบายทางการค้า
รายละเอียดอัตราภาษีใหม่สำหรับพัสดุมูลค่าต่ำ
เดิมที พัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ เรียกว่า de minimis จะได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร แต่ภายใต้คำสั่งใหม่ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษีเบื้องต้นสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐไว้ที่ 30% ของมูลค่าการจัดส่ง หรือ 25 ดอลลาร์สหรัฐ (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า) โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568
จากนั้น อัตราภาษีจะ เพิ่มขึ้นเป็น 90% ของมูลค่าการจัดส่ง หรือ 75 ดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 150 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการเพิ่มภาระภาษีอย่างมาก
ผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกออนไลน์จีน (Shein และ Temu)


การยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำ (de minimis) เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ของจีน เช่น Shein และ Temu ซึ่งใช้วิธีการส่งสินค้าโดยตรงไปยังลูกค้าในสหรัฐฯ ผ่านระบบไปรษณีย์ระหว่างประเทศ การขึ้น ภาษี ในอัตราที่สูงนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนของสินค้าเหล่านี้ และอาจทำให้ราคาสินค้าที่ขายในสหรัฐฯ สูงขึ้นอย่างมาก หรืออาจทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ความรุนแรงของสงครามการค้า
ข่าวนี้เน้นย้ำว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงร้อนแรงและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น การขึ้นภาษีอย่างต่อเนื่องและในอัตราที่สูงเช่นนี้ บ่งชี้ถึงความไม่ลงรอยกันทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ และอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้จากจีนในอนาคต
ปลดล็อกโอกาสทอง รับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายที่จะยกระดับการทำกำไรของคุณ ไม่ว่าจะเป็นโบนัสต้อนรับที่เหนือกว่า หรือเครดิตฟรีแบบจัดเต็ม สมัครวันนี้พร้อมรับโบนัส 1000 บาท เพียงใช้รหัส DW338