เกมเดิมพันไพ่ระดับโลก “โป๊กเกอร์” ต้นกำเนิดจากเกมคาสิโนสู่เกมกีฬาในการแข่งขันระดับนานาชาติพร้อมการได้รับความยอมรับในวงกว้าง นักพนันหลายคนต้องการที่จะฝึกฝนการเล่นโป๊กเกอร์ให้เชี่ยวชาญหรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นก็ต่างศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีเล่นโป๊กเกอร์ KUBET ได้รวบรวมวิธีการเล่นอย่างง่ายสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการฝึกฝีมือก็สามารถหาความรู้ได้เช่นกัน
โป๊กเกอร์ คืออะไร เกมไพ่รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมทั่วโลก จุดเริ่มต้นของโป๊กเกอร์คือการเล่นในคาสิโนที่สหรัฐอเมริกา มีกฎกติกาที่เรียบร้อย สามารถทำความเข้าใจได้อย่างง่ายดาย วิธีการเล่นส่วนใหญ่อิงตามเป็นแบบสากลที่ใช้ในทั้งการแข่งขันและในคาสิโน คือ Texas No Limit Hold’em หรือเรียกย่อๆว่า NLHE
กฎระเบียบพื้นฐานของการเล่นโป๊กเกอร์
- หนึ่งโต๊ะการแข่งขันสามารถมีผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 9 คน อย่างไรก็ดี ผู้เล่นต่ำสุด 2 คนก็สามารถเริ่มเล่นเกมเดิมพันได้
- หลังจากนักเดิมพันเข้าประจำที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคนอย่างละ 2 ใบ โดยปกติแล้วไพ่สองใบจะเป็นแค่ด่านแรกของเกมเดิมพันเท่านั้น การจะตัดสินผลแพ้ชนะของเกมเดิมพันจะตัดสินที่ไพ่ใบที่ 5
- ดีลเลอร์ทำการเปิดไพ่ “คอมมูนิตี้การ์ด” จำนวน 5 ใบ กลางโต๊ะเดิมพัน ผู้เข้าแข่งขันสามารถมองเห็นแต้มไพ่ทั้ง 5 ใบได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
- ไพ่ทั้งหมดที่ท่านมีตอนนี้คือ 2 ใบที่อยู่ในมือ และอีก 5 ใบที่ดีลเลอร์แจก ท่านสามารถเลือกใบใดก็ได้ให้ครบ 5 ใบเพื่อชนะเกม เกณฑ์การเลือกเป็นอย่างไร
- ท่านสามารถเลือกไพ่ในมือของท่าน 2 ใบกับไพ่ในคอมมูนิตี้การ์ดอีก 3 ใบเพื่อชัยชนะ
- ท่านสามารถเลือกไพ่ในมือของท่าน 1 ใบ ไพ่ในคอมมูนิตี้การ์ดอีก 4 ใบเพื่อชัยชนะ
- ท่านสามารถเลือกไม่เลือกไพ่ในมือของท่านเลยทั้ง 2 ใบ และเลือก 5 ใบในคอมมูนิตี้ เพื่อชัยชนะ
วิธีดูแต้มไพ่ต่ำสุด – สูงสุด
- High card ไพ่ที่มีแต้มสูงที่สุด คือ A (ACE) ไพ่รองลงมาคือ K (King),Q,J,10,9,8,7,6,5,4,3,2 กรณีที่ไพ่ออกมาในรูปแบบทั่วไป ไม่สามารถจับคู่เรียง ดอก หรือแต้มสวยได้ จะดูการเรียงไพ่ที่มีแต้มเยอะที่สุด ใครถือ A (ACE) ในมือจะได้รับชัยชนะ หรือ หากไม่มีใครถือเอซเลย ก็จะดูจากแต้มไพ่ที่มีแต้มมากที่สุดใน 5 ใบ
- One Pair (1 คู่) หากไพ่ในกองมีไพ่คู่ ไม่ว่าจะเป็นเลขคู่ใดก็ตาม เช่น 8/8 หรือ 2/2 จำนวน 1 คู่ ใน 5 ใบ ก็สามารถเอาชนะไพ่ High card ได้
- Two Pair (2 คู่) หากท่านต้องการเอาชนะ 1 คู่ ได้ ในจำนวน 5 ใบ ในมือของท่านก็ต้องมีไพ่ 2 คู่นั่นเอง ต่อให้ฝ่าย 1 คู่จะมีแต้มไพ่ที่มากกว่า แต่หากท่านได้ 2 คู่ในมือไม่ว่าจะเป็นแต้มใดก็เอาชนะได้อยู่ดี
- Three Fo a Kind (ตอง) หากท่านต้องการเอาชนะไพ่ 2 คู่ ท่านจำเป็นต้องมีไพ่ในมือเป็นไพ่ตอง คือเลขเหมือนกัน 3 ใบนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นแต้มใด หากมีซ้ำกัน 3 ใบ จะเรียกว่าไพ่ตอง สามารถเอาชัยชนะไพ่ 2 คู่ได้
- Straight (เรียง/สเตรท) ไพ่ที่สามารถเอาชนะไพ่ตองได้ คือ ไพ่เรียง หมายถึง ไพ่ทั้ง 5 ใบ มีแต้มเรียงกัน เช่น 8,9,10,J,Q / A ,2, 3, 4, 5 เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องมีสีหรือดอกเดียวกันก็สามารถเอาชนะได้
- Flish (สี / ดอก) หากไพ่ในมือของท่านเป็นดอกเดียวกันทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเรียง หรือ มีแต้มคู่ใดๆ ก็สามารถเอาชนะไพ่สเตรทได้
- Full House (เห่า) เหนือไพ่ดอกเดียวกันทั้งหมดคือไพ่เห่า หมายถึง จำนวนไพ่ 5 ใบ มีไพ่ 1 คู่ และอีก 3 ใบคือไพ่ตอง นั่นเอง เช่น 5 ใบในมือของท่านคือ K,K,7,7,7 ผลลัพธ์คือ 1 คู่ 1 ตอง
- Quads (โฟร์การ์ด/สี่/หอน) 4 ใน 5 ใบในมือของท่านคือเลขเดียวกันทั้งหมด เรียกว่าไพ่โฟร์การ์ด หรือ หอน (เรียกโดยคนไทย) 1 ใบที่เหลือสามารถเป็นไพ่ใดก็ได้ แค่มี 4 ใบที่เหมือนกันท่านก็เอาชนะคู่แข่งที่ถือไพ่เห่าแล้ว
- Straight Flush (สเตรทฟลัช) สเตรทดังที่กล่าวข้างต้นหมายถึงไพ่เพียง เสตรทฟลัช จึงหมายถึง การเรียงโดยมีดอกเดียวกันทั้งหมด 5 ใบ ก็สามารถเอาชนะไพ่โฟร์การ์ดได้อย่างง่ายดาย
- Royal Straight Flush (รอยัลสเตรทฟลัช) แต้มสูงสุดในการเดิมพันที่จะกินเรียบทั้งโต๊ะคือ รอยัลสเตรทฟลัช ไม่ว่าท่านจะเปิดได้ไพ่ระดับเทพตามที่กล่าวมามากน้อยเพียงใด หากหนึ่งในคู่ต่อสู้ของท่านถือรอยัลสเตรทฟลัชเอาไว้ในมือ ก็เป็นอันจบเกม กินเรียบทั้งโต๊ะ รูปแบบของไพ่ปราบเซียนเป็นอย่างไร ไพ่ทั้ง 5 ใบในมือของท่านไม่ใช่แค่ไพ่ที่มีแต้มเรียงกัน ดอกเหมือนกันเท่านั้น เลขเรียงนั่นต้องหมายถึง A ,K, Q, J, 10 และดอกที่ใหญ่ที่สุดในเกมไพ่ก็คือ โพธิ์ดำ นั่นเอง
วิธีการเล่นไพ่โป๊กเกอร์
- ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะมีชิปสำหรับการเดิมพันแล้วแต่จำนวนที่ใช้เงินตราแลกมา
- ดีลเลอร์แจกไพ่ให้ผู้เข้าแข่งขันคนละ 2 ใบ หากท่านพอใจกับไพ่ 2 ใบในมือและต้องการเล่นต่อ ก็ให้นำชิปมาวางกองกลางเพื่อขอเปิดไพ่อีก 5 ใบ ฝ่ายตรงข้ามหากต้องการเล่นเดิมพันจำเป็นต้องลงชิปให้มากกว่าหรืออย่างน้อยที่สุดคือเท่ากับผู้เล่นคนแรกที่ลงชิป อย่างไรก็ดี หากท่านมั่นใจเหลือเกินว่าไพ่ในมือของท่านเหนือกว่าผู้ใดแล้วในเกม ท่านสามารถลงชิปในจำนวนที่มากมายผู้เล่นคนแรก นั่นหมายถึง “การเกทับ” หากผู้เล่นคนแรกต้องการเล่นต่อ จำเป็นต้องลงชิปอีกครั้งให้เท่ากับฝ่ายที่เกทับมา หากต้องการเกทับอีกครั้งก็ทำได้เช่นกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะลงชิปเป็นจำนวนเสมอกันถึงจะมีการเปิดไพ่ในรอบต่อไป หรือหากท่านไม่พอใจในไพ่ 2 ใบแรกก็สามารถหมอบได้เลยเช่นกัน
- ดีลเลอร์ทำการเปิดไพ่ชุดแรกจำนวน 3 ใบ (พรีฟ็อบ) ผู้เล่นเริ่มแต้มไพ่ 3 ใบ บวกกับในมือของท่านอีก 2 ใบ ว่าสามารถมีผลลัพธ์ได้ในรูปแบบใดบ้างจากการดูไพ่ต่ำ – สูงด้านบน ผู้เข้าแข่งขันทำการลงเดิมพันหรือเกทับกันอีกครั้งเพื่อเข้าสู่การเปิดไพ่ในรอบถัดไป การเกทับ หรือถอนตัวสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดการลงเดิมพัน หากท่านไม่ต้องการลงชิปหรือผ่าน ก็สามารถทำได้เช่นกัน (การเคาะหรือเช็คใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับการไม่ลงชิปในตานั้นเพื่อให้ผู้เล่นคนต่อไปได้ตัดสินใจต่อ) โดยไม่ได้เด้งออกจากการเดิมพันแต่อย่างใด
- ดีลเลอร์ทำการเปิดไพ่ใบที่ 4 เรียกว่า “เทิร์น” ผู้เข้าแข่งขันทำการคำนวณไพ่อีกครั้ง พร้อมลงเดิมพันในรูปแบบเดียวกัน
- ดีลเลอร์ทำการเปิดไพ่ใบสุดท้าย เรียกว่า “รีเว่อร์” หรือว่า “แม่น้ำ” การลงเดิมพันรอบสุดท้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง ท่านสามารถลงเดิมพันแบบ “All in” หรือการเทหมดหน้าตักสำหรับการเดิมพันครั้งสุดท้าย หากมั่นใจว่าไพ่ของท่านดีกว่าคู่ต่อสู้ หลังการลงเดิมพันของทุกคนเสร็จสิ้นก็ทำการเปิดไพ่เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์สำหรับการเป็นผู้ชนะในตานั้นๆ รางวัลคือเงินกองกลางที่ผู้เข้าแข่งขันลงเดิมพันเอาไว้ในแต่ละรอบนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือกติกาการของการเล่นโป๊กเกอร์แบบเข้าใจง่ายและตรงประเด็นมากที่สุดที่ KUBET ได้รวบรวมเอาไว้ ใช้ได้ทั้งกับมือใหม่และผู้ที่ต้องการพัฒนาตัวเองในการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ก็สามารถใช้ประโยชน์จากบทความนี้ได้เช่นกัน ยังมีรูปแบบการเดิมพันเพื่อการแข่งขันลและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ท่านอีกมากมายผ่านเว็บไซต์ยอดนิยม KUBET ที่รวบรวมเกมเดิมพันพร้อมฟังก์ชันให้ความบันเทิงอีกมากมาย ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจากรัฐบาลต้นทาง