KUBET Poker กับรูปแบบการเล่นไพ่ที่คลาสสิกที่สุดในไพ่โป๊กเกอร์ เดิมที ประเภทของไพ่โป๊กเกอร์แบ่งออกเป็น 7 ประเภทด้วยกัน ที่มีวิธีการเล่นที่คล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมด แต่จะมีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยของแต่ละรูปแบบเพื่อบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองของรูปแบบนั้นๆ อย่างการเล่นแบบ “7 การ์ดสตั๊ด” เคยูเบทได้รวบรวมวิธีการเล่นไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ไพ่โป๊กเกอร์มาให้ท่านได้ศึกษา เรียนรู้ และทำความเข้าใจวิธีการเล่นไปพร้อมๆกันแล้ว
7 การ์ดสตั๊ด
7 การ์ดสตั๊ด หรือ Seven-Card Stud เป็นอีกประเภทหนึ่งที่ถูกแยกออกมาจากไพ่โป๊กเกอร์ อย่างไรก็ดี ยังมีกฎกติกาที่คล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด ในส่วนของความนิยม Seven-Card Stud ถือว่าเป็นอีกรูปแบบเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกไม่ต่างจากการเล่นไพ่โป๊กเกอร์
ความแตกต่างของไพ่โป๊กเกอร์ และ 7 การ์ดสตั๊ด
1.จำนวนไพ่
สำหรับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ผู้เล่นจะได้รับไพ่เริ่มต้นในมือ 2 ใบ เพื่อใช้ในการสร้างมือโป๊กเกอร์ ให้กับตัวเอง ในขณะที่การเล่นแบบ7 การ์ดสตั๊ด ผู้เล่นจะได้รับไพ่ทั้งหมด 7 ใบ โดยจะต้องใช้ไพ่เหล่านี้สร้างมือโป๊กเกอร์ที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
2.ไพ่กองกลาง
สำหรับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ จะมีการเปิดไพ่กองกลางทั้งหมด 5 ใบ และในมืออีก 2 ใบรวม 7 ใบ เพื่อเลือกไพ่ที่ดีที่สุดทั้งหมด 5 ใบสำหรับสร้างโป๊กเกอร์ในมือ สำหรับการเล่นไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด ไม่ได้มีการเปิดไพ่กองกลางเนื่องจากผู้เล่นได้รับไพ่ครบแล้ว 7 ใบ สามารถสร้างโป๊กเกอร์ในมือได้เลย
3.การเดิมพัน
เนื่องจากไพ่โป๊กเกอร์จะมีการวางเดิมพันตั้งแต่ตาแรกที่ได้ไพ่แค่ 2 ใบ ก่อนจะมีการเปิดเรียงลำดับไปเรื่อยๆ สามารถวางเดิมพันได้ในแต่ละตา โดยพิจารณาจากไพ่ที่อยู่ในมือและกองกลาง สำหรับการเล่นไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ในการเลือกไพ่ในมือให้ดี และอ่านเกมคู่ต่อสู้ให้ออก ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเรื่องดวงเข้ามาช่วยมากนักสำหรับการเล่นไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด
อีกหนึ่งตัวเลือกหากท่านเป็นผู้ชื่นชอบการเล่นเกมไพ่อย่างโป๊กเกอร์ บาคาร่า ป๊อกเด้ง เว็บไซต์เกมเดิมพันออนไลน์ KUBET เปิดให้บริการพร้อมฟังก์ชั่นนำสมัยอีกมากมายที่ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างถูกกฎหมาย พร้อมตรวจสอบความโปร่งใสและความยุติธรรมผ่านระบบบล็อกเชนที่เว็บไซต์ติดตั้งให้ท่านแล้วได้เลย
วิธีการเล่นไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด
1. ก่อนเริ่มเดิมพัน ผู้เล่นจำเป็นต้องจ่ายทริปให้กับดีลเลอร์ผู้แจกไพ่ก่อนเสมอ
2. ผู้เล่นจะได้รับไพ่คนละ 3 ใบ ในรอบแรก โดย จะมี 1 ใบที่ถูกหงายแต้มขึ้น เพื่อให้ผู้อื่นได้มองเห็น เช่นเดียวกัน ผู้เล่นสามารถมองเห็นของผู้เล่นคนอื่นได้เช่นกัน ซึ่งผู้เล่นที่ได้ไพ่หงายและมีแต้มต่ำสุด ผู้เล่นคนนั้นจะได้เป็นผู้นำเกม หรือเป็นผู้เริ่มเล่นเป็นคนแรก
3. วางเดิมพันได้อีกครั้งหลังตรวจสอบไพ่อีกสองใบของท่านเรียบร้อยแล้ว
4. หลังเดิมพันรอบที่สองจบลง ผู้เล่นจะได้รับไพ่ใบที่ 4 ที่ถูกเปิดเผยอีกครั้ง พร้อมกับการลงเดิมพันอีกรอบกับไพ่ที่มีอยู่ 4 ใบในมือตอนนี้ ซึ่ง 2 ใน 4 เป็นไพ่ที่ถูกเปิดเผยอยู่
5. หลังเดิมพันเสร็จสิ้น ผู้เล่นจะได้รับไพ่ใบที่ 5 ซึ่งเป็นไพ่ที่ถูกเปิดเผยอีกใบ รวมทั้งหมดเป็น 5 ใบ ก่อนจะลงเดิมพันอีกครั้ง
6. สิ้นสุดการเดิมพันก็มาถึงการแจกไพ่ใบที่ 6 ซึ่งเป็นไพ่ที่ถูกเปิดเผยอีกใบ ก่อนจะเริ่มเดิมพันกันอีกครั้ง
7. และการแจกไพ่ใบที่ 7 จะเป็นไพ่ที่ถูกปิดเอาไว้ ซึ่งผู้เล่นทุกคนจะได้รับเหมือนกัน เข้าสู่การเดิมพันในรอบสุดท้ายของเกม
8. หลังสิ้นสุดการเดิมพัน ก็จะเป็นการเปิดไพ่ทั้งหมดเพื่อเฉลยผลลัพธ์ 5 ใบ ที่ดีที่สุด จะได้เป็นผู้ชนะไปในเกมนั้นๆ พร้อมล้างกระดานแล้วเริ่มต้นเกมใหม่ได้ทันที
สามารถอ่านวิธีเล่นไพ่โป๊กเกอร์ดั้งเดิมเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ KUBET
ลำกับการชนะของไพ่ 7 การ์ดสตั๊ด
1. Royal Flush (รอยัลฟลัช) หมายถึง หากผู้เล่นได้ไพ่ทั้ง 5 ใบ เป็น ไพ่ A, K, Q, J, 10 และมีดอกเดียวกันทั้งหมด จะถือเป็นมือโป๊กเกอร์สูงสุดบนโต๊ะเดิมพัน
2. Straight Flush (สตราท์ฟลัช) หมายถึง ผู้เล่นได้ไพ่ทั้ง 5 ใบเป็นไพ่เรียงกันเช่น 5,6,7,8,9 และมีดอกเดียวกัน เป็นลำดับที่รองลงมาจาก รอยัลฟลัช
3. Four of a Kind (ฟอร์ออฟเดอร์ไคนด์) หมายถึง มีไพ่ 4 ใบที่มีค่าเดียวกัน เช่นการได้ แต้ม 4,4,4,4
4. Full House (ฟูลเฮาส์) หมายถึง มีไพ่ 3 ใบ ที่มีค่าเดียวกัน และอีก 2 ใบ เป็นค่าเดียวกันเช่น ได้ไพ่ 3 ใบเป็น แต้ม 9,9,9 และอีก 2 ใบ คือ K ,K
5. Flush (ฟลัช) หมายถึง มีไพ่ 5 ใบ ที่มีเครื่องหมายเดียว หมายถึง มีดอกเดียวกันทั้งหมด 5 ใบ นั่นเอง
6. Straight (สตราท์) หมายถึง มีไพ่ 5 ใบ ที่เรียงลำดับต่อเนื่องกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องหมายเดียวกัน
7. Three of a Kind (ทรีออฟเดอร์ไคนด์) หมายถึง มีไพ่ 3 ใบ ที่มีค่าเดียวกัน หมายถึง ได้ แต้ม 9,9,9
8. Two Pair (ทูแพร์) หมายถึง มีไพ่ 2 คู่ ที่มีค่าเดียวกันหรือดอกเดียวกัน เช่น ได้ไพ่ 2 ใบ เป็น 8,8 และได้ไพ่อีก 2 ใบเป็น 9,9 ซึ่งทั้ง 4 ใบมีดอกที่เหมือนกันอยู่ 2 ดอก ดอกละ 2 ใบ
9. One Pair (วันแพร์) หมายถึง มีไพ่ 1 คู่ ที่มีแต้มเดียวกันเช่น 6,6
10. High Card (ไฮคาร์ด) หมายถึง ถ้าไม่มีไพ่ในมือในลำดับการชนะเลย ให้มองหาไพ่ที่มีแต้มสูงสุดในมือ นั่นก็คือ A (เอซ) หรือ Ace
สำหรับวิธีการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ต้นฉบับ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ KUBET ทั้งการเล่น Texas Hold’em และ อีก 5 รูปแบบของไพ่โป๊กเกอร์ ก็มีข้อมูลให้ศึกษาแล้วในเว็บไซต์ดังกล่าว