การพนันมีมาตั้งแต่สมัยอดีตกาลรู้จักกันอย่างแพร่หลายในสังคมไทยสมัยนั้นจุดเริ่มต้นและจุดจบปี้โรงบ่อนและยังพบหลักฐานที่ว่าสยามประเทศเคยมีการทำให้การพนันถูกกฎหมายก่อนถูกยกเลิกเพราะเหตุใดและเพราะใครKUBETจะมาลื้ออดีตให้ท่านได้รับรู้กัน
คนไทยรู้จักการพนันได้ยังไง
ย้อนอดีตไปสืบดูต้นกำหนดจริงๆของการเล่นการพนันจุดเริ่มต้นถือกำเนิดที่ประเทศจีนและได้แพร่หลายไปที่อินเดียและประเทศในตะวันตกทั้งหมด สำหรับต้นกำเนิดที่คนไทยรู้จักกับการพนันจริงๆบางคนก็เล่าว่ามาจากพ่อค้าชาวจีนบ้างแหละ บางคนกก็เล่าว่ามาจากอินเดียที่มาเผยแผ่ศาสนา ณ สมัยสุโขทัย เป็นราชธานี ในเวลานั้น
แต่มาปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนก็สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายแล้ว ในช่วงปี พ.ศ 2231 ถึง พ.ศ 2275 นั้นก็คือการพบหลักฐานที่ชี้ชัดครั้งแรกกับการพนันชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “กำตัด” มีดันมีอุปกรณ์คล้ายๆการพนันของคนจีนที่มีชื่อว่า “กำถั่ว” นั่นเองและหลักฐานที่สำคัญที่ชัดเจนเลยว่าคนไทยรักในการพนันมานานแล้วคือ ลายลักษณ์อักษรของเอกอัครราชทูตพิเศษฝรั่งเศส “มองสิเออร์ เดอ ลาลูแบร์”ที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ที่บันทึกว่า
ชาวสยามค่อนข้างรักการเล่นพนันเสียเหลือเกิน จนยอมผลาญตัวเองให้ฉิบหายเสียทั้งอิสรภาพ ความชอบธรรมของตนเองและลูกเต้ามาใช้หนี้ หากใช้หนี้มิเพียงพอ ตัวเองก็ต้องยอมไปเป็นทาสเสียเอง
บ่อนที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย
KUBETพามารู้จักบ่อนที่ถูกกฎหมายในไทยที่แรก โรงบ่อนได้ปิดไปหลายช่วง ตั้งแต่ช่วงพระนารายณ์เป็นเหนือหัวจนไปจนก่อนเปลี่ยนแผ่นดินเป็นพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศโรงบ่อนใช้ช่วงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์บ่อนเป็นของคนจีนและนิยมในหมู่คนจีนแต่ก็จะมีชาวไทยบางส่วนที่ลักลอบเข้าไปเล่นบ้างเหมือนกัน
ในสมัยราชการที่ 1 คนจีนได้ก่อตั้งบ่อนขึ้นมาในย่านสำเพ็งที่มีชื่อเรียกว่า “กงสีล้ง” บ่อนของจีนใช้เบี้ยในการนับคะแนนแทนการใช้ทรัพย์ ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการเปิดบ่อนไทยขึ้นมา บ่อนไทยให้ใช้เงินสดแทนเบี้ยไปเลย และเวลาต่อมาถึงสมัยรัชกาลที่4ได้มีการร่วมบ่อนไทยและบ่อนจีนเข้าด้วยกัน
ถึงสมัยนั้นรัฐจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเปิดโรงบ่อนในสยามประเทศแต่ก็ต้องยอมรับตรงๆว่าภาษีอากรที่ได้จากการเก็บเบี้ยจากโรงบ่อนเป็นแหล่งเงินที่สำคัญและมหาศาลที่เอามาจ่ายให้ราชการแผ่นดินรัฐจึงยอมให้มีการเปิดโรงบ่อนเรื่อยมา ความนิยมในการเล่นพนันของคนสยามได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูจากการเสียภาษีอากรของโรงบ่อนที่จ่ายให้รัฐที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ
- สมัยรัชกาลที่2 มีการเก็บภาษีอากรจ่ายเบี้ยรายปี ปีละ 255 ชั่ง 5 ตำลึง หรือตีเป็นเงินไทยปัจจุบันราวๆ204,000 บาท
- สมัยรัชกาลที่3โรงบ่อนได้เสียภาษีอากรให้รัฐตีเป็นเงินไทยในปัจจุบันราวๆ 400,000 บาท
- สมัยรัชกาลที่4 รายได้จากการผูกขาดสินค้าลดลงทำให้สมัยนั้นภาษีอากรหลักๆเลยได้มาจากการเปิดโรงบ่อนนั้นเอง
จุดเริ่มและจุดจบ การพนันถูกกฎหมายในสยาม
จุดเริ่มต้นบ่อนถูกกฎหมาย
- จุดเริ่มต้นของการพนันในแดนสยามเริ่มต้นแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ที่มีการพนันในรูปแบบต่างๆเช่น กำตัด หมากรุก ชนไก่ ชนนก ปลากัด ไพ่ไทย ไพ่จีน สมัยรัชกาลที่2ได้มีกฎให้โรงบ่อนถูกกฎหมายโดยเริ่มมีการเรียกเก็บภาษีจากการพนันทำให้รายได้ส่วนใหญ่มาจากการเก็บภาษีอากรบ่อนสร้างเม็ดเงินให้รัฐเป็นจำนวนมหาศาลจนถึงรัชกาลที่ 4
จุดเริ่มจบบ่อนถูกกฎหมาย
- จุดจบโรงบ่อนถูกกฎหมายเริ่มที่สมัยรัชกาลที่5ที่ได้เสด็จประพาสยุโรปทรงได้ไปเห็นการพนันที่ยุโรปว่ามีผลเสียอย่างไรกับคนที่ติดการพนัน จึงกลับมาโปรดเกล้าฯให้ยกเลิกบ่อนการพนันทั้งหมดในภาคใต้ และจำกัดจำนวนบ่อนที่จะเปิดในสยามโดยเวลาต่อมามีการเปลี่ยนแผ่นดินสมัยรัชกาลที่6 ได้มีการประกาศให้ปิดโรงบ่อนทั้งหมดในสยาม และนับให้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2460 จนถึงปัจจุบันนี้นั้นเอง
สรุป
ถึงในประเทศไทยในปัจจุบันการพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่แต่กับตรงกันข้ามกับต่างประเทศหรือประเทศตะวันตกที่ทำให้บ่อนคาสิโนเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายเพื่อเรียกเก็บภาษีเข้าประเทศและเข้าควบคุมการพนันให้อยู่ในกรอบที่ควรจะเป็นตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ ซึ่งคาสิโนออนไลน์ที่ถูกกฎหมายในปัจจุบันยกตัวอย่างเช่น คาสิโนออนไลน์KUBET ที่มีครบทั้งใบรับรองและควบคุมจากรัฐบาล